Custom Search
##=================================================================## ##=================================================================##

วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

Canon EOS 500D ตัวโปรดของผมเอง

16 มิถุนายน 2552
( 20 ความคิดเห็น )
คะแนน 1 คะแนน2 คะแนน3 คะแนน4 คะแนน5 คะแนน

Canon EOS 500D กล้องดิจิตอล SLR ใหม่ล่าสุดจากแคนนอนที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ภาพ CMOS ขนาด
APS-C ความละเอียดสูงถึง 15.1 ล้านพิกเซล และถ่ายวิดีโอได้ด้วยความละเอียดระดับ Full HD (1920x1080 พิกเซล) พร้อมช่องต่อ HDMI สำหรับเปิดชมภาพจากโทรทัศน์ HDTV ขุมพลังหน่วยประมวลผลความเร็วสูง DIGIC 4 ให้ภาพที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ถ่ายภาพต่อเนื่องเร็ว 3.4 เฟรม/วินาที ต่อเนื่อง 170 ภาพ ที่ไฟล์ JPEG จอขนาด 3.0" ความละเอียด 920,000 พิกเซล พร้อมโหมด Live View ระบบออโต้โฟกัสแบบ cross-type 9 จุด สามารถค้นหาโฟกัสได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้งพร้อมๆ กัน ช่วยให้การหาโฟกัสเป็นไปด้วยความรวดเร็วแม่นยำมากขึ้น ความไวแสง ISO 100-3200 (ขยายได้สูงสุด 12800) ระบบทำความสะอาดเซ็นเซอร์อัจฉริยะ EOS Integrated Cleaning System รองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์ Canon ในตระกูล EF และ EF-S รวมทั้งแฟลชตระกูล EX ทุกรุ่น บันทึกภาพด้วย SD และ SDHC Card แบตเตอรี่ Li-Ion LP-E5 สามารถใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่กริปรุ่น BG-E5 เพื่อช่วยในการจับกล้องในแนวตั้ง ช่วยให้ถ่ายภาพได้นานขึ้น ตัวกล้องมีขนาด 129 x 98 x 62 มม. น้ำหนักเบาเพียง 480 กรัม

เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C 22.3 x 14.9 มิลลิเมตร (มีอัตราคูณทางยาวโฟกัสที่
1.6 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้งานกล้องฟิล์มแบบ 35 มม.) ให้ความละเอียดถึง
15.1 ล้านพิกเซลซึ่งนับว่ามากที่สุดในบรรดากล้องถ่ายรูปในระดับเดียวกัน
ทำให้กล้องสามารถเก็บทุกรายละเอียดของภาพและลดสัญญาณรบกวน (Noise)
เมื่อใช้งานที่ความไวแสงสูงๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ




หาก เปรียบเซ็นเซอร์ CMOS เป็นหัวใจ ของกล้องแล้วชิปประมวลผลภาพ อัจฉริยะ Digic 4 ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ของแคนนอน ก็ถือได้ว่าเป็นสมองของ กล้องด้วย Digic 4 ทำให้ EOS 500D สามารถประมวลผลสีภาพได้สูงถึง 14 บิต ทำให้มีช่วงไดนามิกเร้นจ์กว้าง มีการไล่โทนอย่างนุ่มนวล

บันทึก รายละเอียดของโทนภาพได้อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ส่วนสว่างไปจนถึงส่วนที่มืดช่วย ให้มั่นใจได้ว่าภาพถ่ายทุกภาพจะมีคุณภาพสูง สวย ให้สีสันสมจริงดุจธรรมชาติ ในขณะที่กล้องสามารถทำงานและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็ว 3.4 ภาพต่อวินาที ต่อเนื่อง 170 ภาพที่ไฟล์ JPEG หรือ 9 ภาพที่ไฟล์ RAW พร้อมลดสัญญาณรบกวน (Noise Reduction) ช่วยลดปัญหาสัญญาณรบกวน เม็ดสีแตกเกรนเมื่อต้องถ่ายภาพด้วยค่าความไวแสงสูงๆ

การทำงานร่วมกันระหว่างเซ็นเซอร์ CMOS ของ
Canon กับชิปประมวล
ผลภาพ DIGIC 4

ทำให้สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง (HD)
ความละเอียด 1280x720 พิกเซล อัตราส่วนภาพ
16:9 ที่ 30 ภาพต่อวินาทีได้ ทั้งยังถ่ายวิดีโอ
แบบ Full HD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล
ที่ 20 ภาพต่อวินาทีได้อีก และตัวเลือกที่สาม
ในการบันทึกวิดีโอ คือคุณภาพ TV มาตรฐาน (SD)
อัตราส่วนภาพ 4:3 ความละเอียด 640x480 พิกเซล
ที่ 30 ภาพต่อวินาที โดยสามารถบันทึกวิดีโอได้ถึง
4GB ต่อหนึ่งคลิป นั่นเท่ากับการบันทึกวิดีโอ
มาตราฐานนาน 24 นาที ขึ้นอยู่กับระดับของ
รายละเอียดในภาพ วิดีโอคลิปถูกบันทึกเป็น
ไฟล์นามสกุล .MOV ใช้การบีบอัดภาพแบบ
MPEG-4 และเสียงถูกบันทึกในแบบ linear PCM
โดยไม่มีการบีบอัด มีไมโครโฟนบันทึกเสียง
ในตัวกล้อง และเพื่อแสดงภาพเคลื่อนไหว
แบบความละเอียดสูงหรือภาพนิ่งที่ถ่ายไว้
EOS 500D มีช่องต่อแบบ HDMI เพื่อแสดงภาพ
บนทีวีความละเอียดสูง HDTV ได้




Anti-Refective and Scratch-Resistant Coatings จอมอนิเตอร์
ของ EOS 500D เป็นแบบ Clear View LCD ขนาด 3 นิ้ว
ความละเอียด 920,000 พิกเซลสามารถเปิดดูภาพเพื่อตรวจสอบโฟกัส
ได้แม่นยำมองภาพได้ภาพเต็ม 100% และมองได้อย่างชัดเจนแม้
จากมุมกว้าง 160 องศา ผิวหน้าจอมอนิเตอร์ได้รับการเคลือบแบบ
หลายชั้นเพื่อป้องกันแสงสะท้อนช่วยแก้ปัญหาเมื่อต้องถ่ายภาพ
และดูภาพกลางแจ้งที่มีแสงสว่างมากๆ แล้วมีแสงสะท้อนจากจอ LCD
ทำให้การมองไม่เห็นภาพหมดไป รวมทั้งป้องกันรอยขีดข่วนต่างๆ ด้วย
และทำให้ผู้ถ่ายสนุกกับการถ่ายรูปแปลกๆ นอกจากนี้ยังมีการเคลือบผิว
อีกชั้น เพื่อป้องกันรอยจากนิ้วมือและรอยขีดข่วนอีกด้วย จึงไม่จำเป็น
ต้องใช้ฟิล์มติดกันรอยแต่อย่างใด
ระบบปรับแสงอัตโนมัติ (Auto Lighting Optimizer) จะช่วย
ปรับค่าความมืดความสว่างและคอนทราสต์ของภาพให้พอดี
โดยอัตโนมัติ ทำให้ภาพของตัวแบบนั้นไม่สว่างหรือมืดจนเกินไป
เรื่องนี้ถือเป็นความใฝ่ฝันของช่างภาพ ขณะถ่ายภาพในสภาพ
ที่มีความเปรียบต่างสูง อันได้แก่พื้นที่ที่มีแสงเงา เช่น
ภาพทิวทัศน์ที่ฉากหน้านั้นสว่างจ้า และฉากหลังถูกเงาเมฆบัง
ในภาพนี้ ระบบปรับแสงอัตโนมัติจะรักษาค่าแสงในพื้นที่สว่าง
ขณะที่เพิ่มค่าแสงในพื้นที่เงามืด เพื่อให้ได้ภาพที่สมจริง
แม้ในสถานการณ์ที่ต้องถ่ายภาพใต้สภาพแสงที่ยุ่งยาก
EOS 500D ปรับตั้งค่าความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO 100 ถึง ISO
3200 และยังเพิ่มค่าความไว ISO ที่ H1: 6400 และ
H2: 12800 ได้อีกด้วย ช่วยให้การถ่ายภาพในสภาวะที่มี
แสงน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพและด้วยเทคโนโลยีประมวลภาพ
อัจฉริยะ DIGIC 4 ที่ทำงานร่วมกับระบบลดสัญญาณรบกวนใน
เซนเซอร์ CMOS ช่วยลดสัญญาณรบกวน แม้ขณะที่มีความไวแสง
สูงสุด โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อคุณภาพของภาพถ่าย โดยคุณ
สามารถเลือกตั้งค่าเป็น Standard, low, Strong หรือ Disable เพื่อให้เหมาะสมกับระดับของสัญญาณรบกวน
ขณะถ่ายภาพ และพร้อมกันนั้นในโหมดการตั้งค่า Standard/Low/Disable นั้น จำนวนภาพสูงสุดที่อัดลง
ใน Buffer ของการถ่ายต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงในแต่ละครั้ง (Maximum Burst) จะยังคงเป็นไปได้เท่าเดิม



ออโต้โฟกัส 3 โหมดในโหมดถ่ายภาพ Live View สามารถเลือกออโต้โฟกัสที่มีทั้งหมด 3 โหมดได้ดังนี้




โหมดนี้ช่วยให้กล้องสามารถค้นหาโฟกัสได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นในระหว่าง
การใช้ Live View Mode โดยระหว่างการค้นหาโฟกัสภาพหน้าจอ LCD
ของกล้องจะตัดเป็นสีดำชั่วขณะ และเมื่อหาโฟกัสได้แล้วหน้าจอ LCD
จะกลับมาแสดงภาพแบบ Live View ทันที




กล้องจะโฟกัสไปที่ใบหน้าที่ตรวจจับได้ ในกรณีที่ค้นหาใบหน้าได้หลาย
ใบหน้า โดยสามารถตรวจจับใบหน้าได้สูงสุด 35 หน้า กล้องก็จะโฟกัส
ไปที่ใบหน้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดศูนย์กลางของภาพและใบหน้า
ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนอกจากนั้นคุณยังสามารถใช้ Multi-controller
ในการเลือกใบหน้าที่ต้องการโฟกัสได้อีกด้วย




ออฟชั่น Live Mode จะตรวจหาจุดโฟกัสและค่าคอนทราสต์ของวัตถุ
ด้วยเซนเซอร์ภาพ ในขณะที่โหมด Live View นั้นยังทำงานอยู่ดังนั้น
โหมด Live View ก็จะไม่มีการปิดดับไปในขณะที่ใช้ออพชั่นดังกล่าว
กล้องจะแสดงภาพจริงก่อนถ่ายตลอดเวลา ซึ่งป็นที่คุ้นเคยสำหรับ
ผู้ที่ใช้งานกล้องดิจิตอลคอมแพคมาก่อน
เป็นการลดค่าความมืดที่มุมของภาพ เนื่องจาก
การใช้เลนส์ประเภทต่างๆ เช่น เลนส์มุมกว้าง
การถ่ายภาพในสภาพแสงบางอย่างจะเกิดปัญหาเรื่อง
แสงสีและความผิดเพี้ยนที่เกิดจากคุณสมบัติของเลนส์ที่ใช้
ฟังก์ชั่นพิเศษ Lens peripheral illumination correction
จะช่วยปรับลดปัญหาดังกล่าวซึ่งคุณสามารถกำหนดเลนส์
ที่ใช้งานได้ถึง 40 ตัวลงในกล้อง EOS 500D ผ่านซอฟท์แวร์
EOS Utility และเมื่อใช้โปรแกรม Digital Photo Professional
ที่ให้มาพร้อมกับตัวกล้อง ซึ่งคุณสามารถแก้ไขได้เกือบทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแสง ความบิดเบือน หรือความคลาดสี
ระบบ EOS Integrated Cleaning System รับมือกับฝุ่นบน
เซ็นเซอร์ 3 วิธีด้วยกัน: ลด, ขจัด และกำจัด

ลด กลไกภายในตัวกล้องถูกออกแบบมาเพื่อลดการเกิดฝุ่น
ให้เหลือน้อยที่สุดการออกแบบฝาช่วยปกป้องไม่ให้ฝุ่นผ่าน
เข้าไปตามช่องบนตัวกล้อง

ขจัด เทคโนโลยีต่อต้านประจุไฟฟ้า รวมถึงการเคลือบฟลูโอรีนพิเศษบน
โลว์พาสฟิลเตอร์ ช่วยป้องกันหน้าเซ็นเซอร์ไม่ให้มันดูดเม็ดฝุ่น

กำจัด ชุดทำความสะอาดเซ็นเซอร์ใช้การสั่นที่ความถี่สูงเพื่อเขย่าฝุ่นบน
โลว์พาส ฟิลเตอร์เป็นเวลาประมาณ 1 วินาทีหลังจากเปิดกล้อง
หากมีการถ่ายภาพทันทีที่เปิดกล้อง ขั้นตอนนี้จะถูกยกเลิกทันที
ที่ปุ่มชัตเตอร์ถูกกด Canon ยังคงพัฒนาระบบลบฝุ่นภายใน Dust Delete
Data system ซึ่งสามารถระบุตำแหน่งของฝุ่นบนเซ็นเซอร์ได้

วิธีนี้สามารถลดฝุ่นได้ทันทีหลังการถ่ายภาพผ่านซอฟท์แวร์ Digital Photo Professional ล่าสุด


สำหรับช่างภาพมือใหม่ที่ต้องการสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่หลากหลาย แต่ยังไม่มีความชำนาญเรื่องการปรับตั้งค่าต่างๆ
หากใช้โหมดออโต้ธรรมดาก็ยังไม่สามารถให้ภาพตามที่ต้องการได้ แคนนอนได้คิดค้นโหมด Creative auto
เพื่อช่วยในการปรับตั้งค่าต่างๆ ของตัวกล้องโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานกล้องเพื่อสร้างสรรค์
ภาพรูปแบบต่างๆ ตามที่ต้องการได้ด้วยเมนูการใช้งานที่เข้าใจได้ง่าย เช่น ในกรณีที่ต้องการภาพวัตถุชัด
แต่ฉากหลังเบลอ ด้วยโหมด Creative auto กล้องจะทำการปรับค่าฉากหลังให้เบลออัตโนมัติ รวมถึงการปรับค่า
ความสว่างในภาพ และการปรับค่าสีสันของภาพให้มีลักษณะสดใส เป็นธรรมชาติมากขึ้น





เพิ่มความคล่องตัวในการใช้งานด้วยเมนูการใช้งานภาษาไทยในตัวกล้อง







Canon Speedlite 270EX เป็น แฟลชภายนอกที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่เล็กลง ขนาดกะทัดรัด 64 มม. (ก) x 65 มม. (ส) x 72 มม. (ย) น้ำหนักเบาเพียง 145 กรัมสะดวกในการพกพา นอกจากสามารถใช้กับ Canon EOS ทุกรุ่น ยังสามารถใช้กับกล้องคอมแพคตระกูล Powershot ที่มี hot shoe ได้อย่างลงตัว สามารถปรับมุมได้ 4 ตำแหน่ง คือ 0, 60, 75, และ 90 องศา มีอัตราการขาร์จที่ 3.9 วินาที มี guide number ที่ 27 เมตร ใช้แบตเตอรี่ขนาด AA เพียง 2 ก้อน รองรับการทำงานของระบบ E-TTLII /E-TTL/TTL/High Speed Sync ทั้งระบบของกล้องฟิล์มและกล้องดิจิตอลได้เป็นอย่างดี ยังสามารถเลือกแบบ Manual ได้อีกด้วย การควบคุมการทำงานสามารถใช้งานผ่านทางเมนูบนตัวกล้อง




Eyepiece Extender จะเป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากกล้อง 15 มม.
และอัตราส่วนภาพลดส่วนลงไป 30% เหมาะสำหรับผู้ที่สวมแว่น
ขณะถ่ายภาพ และยังช่วยไม่ให้จมูกชนกับตัวกล้องอีกด้วย



แบตเตอรี่กริป BG-E5 ช่วยอำนวยความสะดวกในการถ่ายภาพในแนวตั้ง นอกจากนี้
แบตเตอรี่กริป BG-E5 ยังทำให้สามารถใส่แบตเตอรี่ LP-E5 ได้ถึง 2 ก้อน ซึ่งทำให้
สามารถถ่ายภาพได้ยาวนานถึง 1,200 ภาพ อีกทั้งสามารถเลือกใส่ถ่าน AA
จำนวน 6 ก้อนได้ด้วยเมื่อใช้งานร่วมกับ Battery Magazine BGM-E5A





รองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์ออโต้โฟกัสของแคนนอนในตระกูล
EF และ EF-S Lenses มากกว่า 60 รุ่น




กล้องดิจิตอล SLR Cannon EOS 500D มีกำหนดวางตลาดในเดือนพฤษภาคม โดยมาพร้อมกับเลนส์คิท
Canon EF-S 18-55 mm f/3.5-5.6 IS ที่ราคา 32,900 บาท ซึ่งรวมถึงแบตเตอรี่และตัวประจุไฟ, USB
และสายวีดีโอ, สายคล้องคอ, EOS Solution Disk CD พร้อมรับประกัน 1 ปี




หน่วยประมวลผล
เซ็นเซอร์รับภาพ : CMOS 22.3 x 14.9 mm (APS-C)
ความละเอียด : 15.1 ล้านพิกเซล
โปรเซสเซอร์ : DIGIC4


ชัตเตอร์
ความเร็วชัตเตอร์ : 30 - 1/4000 วินาที, bulb
ถ่ายภาพต่อเนื่อง : 3.4 fps, 170 JPEG


ระบบเกี่ยวกับแสง
ระบบวัดแสง : แบ่งพื้นที่วัดแสง 35 โซน
- Evaluative metering แบบเฉลี่ยทั้งภาพ (เชื่อมต่อกับจุดโฟกัสใดก็ได้)
- Partial metering แบบเฉลี่ยเฉพาะส่วน (ประมาณ 9% ของจุดศูนย์กลาง
ช่องมองภาพ)
- Spot metering แบบเฉพาะจุด (ประมาณ 4% ของจุดศูนย์กลางช่องมองภาพ)
- Center-weighted average metering แบบเฉลี่ยน้ำหนักกลางภาพ
ระบบชดเชยแสง : -2 to +2 EV in 1/3 EV or 1/2 EV steps
ความไวแสง (ISO) : ISO ตั้งแต่ 100-3200 และสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง ISO 12800


ช่องมองภาพและ LCD
ช่องมองภาพ : Optical (Pentamirror, 95% coverage, 0.87x magnification)
ขนาดจอ LCD : 3 นิ้ว
ความละเอียดจอ : 920,000 พิกเซล


แฟลช
ระบบแฟลช : Auto, On, Red-eye reduction, Off
ระยะแฟลช : 13 m (ISO 100)
แฟลชภายนอก : hot-shoe, E-TTL II
การควบคุมแฟลชภายนอกจากตัวกล้อง : สามารถทำได้


ไฟล์และการเชื่อมต่อ
ภาพนิ่ง : JPEG, RAW, RAW+JPEG
ไฟล์ภาพเคลื่อนไหว : FULL HD 1920x1080 (20 fps), HD 1280x720 (30 fps), SD 640x480 (30 fps)
เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ : USB 2.0 (480 Mbit/sec)
เชื่อมต่อทีวี : A/V output (PAL/NTSC switchable), HDMI


อื่นๆ
ชนิดโฟกัส : แบบออโต้โฟกัส 9 จุด
แบตเตอรี่ : LP-E5 1050mAh Li-Ion & Charger
หน่วยความจำที่ใช้ : SD/SDHC Card
กว้าง สูง ลึก : 129 x 98 x 62 mm
น้ำหนักตัวกล้อง : 480 g
เมนูภาษาไทย : มี


ราคา : 32,900 บาท (พร้อมเลนส์ EF-S 18-55 mm f/3.5-5.6 IS)

ข้อมูลจาก

นิตยสาร On Camera ฉบับที่ 64
15 พฤษภาคม 15 มิถุนายน 2552

วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2553

การจัดองค์ประกอบภาพ

พื้นฐานการจัดองค์ประกอบภาพถ่ายและเทคนิค

เวลาถ่ายภาพสิ่งหนึ่งที่เราภาพพยายามทำก็คือ การทำให้ภาพนั้นมีความน่าสนใจและเทคนิคง่ายๆ ในหัวข้อแรกที่เราควรรู้ก็ คือ “การจัดองค์ประกอบ” เรามาดูทฤษฎีแรกกัน..


การจัดองค์ประกอบแบบ golden mean

golden mean คือสัดส่วน (ratio) 1:1.6180339.. ซึ่งดูเหมือนกับอัตราส่วนของระบบฟิลม์ 35 มม.

(24x36มม. = 5:7.5) สูตรเรขาคณิตนี้ ถูกคิดให้สอดคล้องกับ golden mean โดยเป็นหลักแนวทางสำหรับศิลปินมากมาย และเป็นแนวทางสำหรับช่างภาพสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี



Golden Spiral
แบ่งภาพทีละ 1:1.618 ของด้านยาว แล้วลากจุดตัด เป็นเส้นโค้ง


Golden Triangle แบ่งเป็นสามเหลี่ยม 3 อัน (แบ่งโดยใช้อัตราส่วน 1:1.618 )







RULE OF THE THIRDS (กฏสามส่วน)

การ ถ่ายภาพโดยวางวัตถุอยู่ตรงกึ่งกลางภาพจะทำให้ภาพดูน่าเบื่อ ดังนั้นเราจึงนำแนวคิดของกฏสามส่วนมาใช้จัดวางองค์ประกอบภาพ เพื่อทำให้ภาพถ่ายดูน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งกฏสามส่วน ก็ถูกนำเอามาจาก golden mean ซึ่งเป็นทฤษฎีพื้นฐานดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น






ตัวอย่างการใช้กฏสามส่วน แบ่งสัดส่วนพื้นที่ 1:3 และ 2:3 ของขนาดภาพ









ตัวอย่างการใช้ กฏสามส่วน โดยนำจุดสนใจของภาพไปวางบริเวณจุดตัด


ภาพนี้จุดสนใจของภาพคือบริเวณดวงตาและใบหน้า
ดังนั้นจะถือว่าเป็นจุดสนใจของภาพ







ตัวอย่าง Golden Triangle









ตัวอย่าง Golden Spiral






เห็นว่ามีประโยชน์มาก เลยเอามาลงให้เพื่อนๆได้ศึกษาดูนะครับ
ขอบคุณบทความจาก http://gotoknow.org/blog/ko1760mm/96419