Custom Search
##=================================================================## ##=================================================================##

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

10 เทคนิคการถ่ายภาพภูเขา

ไปอ่านเจอบทความน่าสนใจ กับเทคนิคการถ่ายภาพภูเขา คิดว่าคงมีประโยชน์ โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพวิวนะครับ.....

เทคนิคการถ่ายภาพภูเขา
1. วางแผนและค้นคว้า
ก่อนออกเดินทาง ช่างภาพควรใช้เวลาสักนิดในการค้นคว้าหาข้อมูล ทำความรู้จักกับที่ๆ จะไปให้ดีเสียก่อน เพื่อเป็นการวาง แผนการเดินทางให้คุ้มค่าและใช้เวลาได้อย่างเกิดประโยชน์มากที่สุด เช่น พระอาทิตย์ขึ้นและตกในตำแหน่งใด ช่างภาพจะได้อยู่ถูกที่ถูกเวลาและรู้ทิศ ทางของแสง ว่าช่วงเช้า ช่วงบ่าย และช่วงเย็นจะไปถ่ายภาพในตำแหน่งใด ก่อนหรือหลัง ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกยังจุดใด ซึ่งจะทำให้ช่างภาพสามารถวางแผนใช้ช่วงเวลาของแสงได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้ง วัน รวมทั้งฤดูกาลที่เหมาะสมเช่น ฤดูร้อน ฤดูฝน หรือฤดูหนาว

2. ใช้ผลจากการถ่ายภาพระยะไกลด้วยเลนส์เทเลโฟโต้ การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์หรือภูเขาไม่จำเป็นต้องใช้เลนส์มุมกว้างเสมอไป เลนส์เทเลโฟโต้ก็สามารถนำมาถ่ายภาพวิวได้เช่นกัน แถมยังให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ช่างภาพอาจใช้เลนส์เทเลโฟโต้ในการถ่ายภาพเพื่อเน้นเฉพาะส่วนที่น่าสนใจซึ่ง จะส่งผลต่อความรู้สึกและมีพลังในภาพมากยิ่งขึ้น การใช้รูรับแสงถ้าต้องการให้วัตถุภายในภาพชัดเจนทุกส่วนก็ควรใช้รูรับแสงแคบ เช่น F22 หรือ F32 แต่ปัญหาที่ตามมาคือความเร็วชัตเตอร์ต่ำต้องใช้ขาตั้งกล้องที่มั่นคงแข็งแรง และใช้ร่วมกับสายลั่นชัตเตอร์ทุกครั้ง หากไม่มีก็ใช้ระบบตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติก็ได้

3. มองหาการสะท้อน ช่างถ่ายภาพภูเขามืออาชีพมักขวนขวายและเสาะหาบางสิ่งบางอย่างที่เหนือกว่า และน่าสนใจเพิ่มเติมลงในภาพ เพื่อให้ได้ผลงานที่แตกต่างไปจากภาพผลงานแบบเก่าๆ ภูเขาลูกเดียวกันแต่อาจเปลี่ยนมุมมองด้วยการส่งภูเขาลงสู่ทะเลสาบหรือหนอง น้ำที่กว้างใหญ่ ทำให้เกิดเป็นภาพสะท้อนขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาพถ่ายมีความน่าสนใจและเพิ่มเรื่องราวให้กับภาพได้เป็นอย่าง ดี

4. สร้างภาพให้มีมิติ ช่างภาพควรมองหาส่วนประกอบสำคัญที่สามารถเติมเต็มพื้นที่ในภาพนอกเหนือจาก ตัวภูเขาอันจะส่งผลทำให้เกิดความ ต้องตาต้องใจมากยิ่งขึ้น เช่น การหาวัตถุที่น่าสนใจรวมเข้าเป็นฉากหน้า อาจจะเป็นเงาดำของต้นไม้ใหญ่ ทุ่งดอกไม้ น้ำตก หรือแม้แต่บรรยากาศในตัวมันเองเป็นต้น ทำให้เกิดมิติที่แตกต่างกันในส่วนที่อยู่ใกล้และฉากหลังที่อยู่ไกลออกไป ภาพในลักษณะนี้ภูเขาอาจเป็นส่วนสำคัญรองลงไปกว่าฉากหน้าก็ได้ เพราะอย่างไรเสียภูเขาก็ยังคงเป็นบรรยากาศที่น่าสนใจในภาพอยู่ดี


5. มองจากมุมที่สูงกว่า เป็นเรื่องง่ายและเบสิคมาก สำหรับการถ่ายภาพภูเขาจากระดับพื้นดิน สิ่งที่จะทำให้ภาพเร้าอารมณ์มากขึ้นคือ การขึ้นไต่ขึ้นไปสู่ที่สูงแล้วบันทึกโลกจากมุมมองที่เหนือกว่า นำเสนออีกทิศทางหนึ่งของภูเขาที่แตกต่างออกไป ช่างภาพต้องใช้ความพยายามมากสักหน่อยกว่าจะได้มุมมองดังกล่าว อาจต้องเดินทางขึ้นเขากันเป็นวันๆ แต่รับรองว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่จะได้กลับมาอย่างแน่นอน ทั้งภาพถ่ายและความรู้สึก ช่างภาพอาจเพิ่มเรื่องราวในขณะเดินทางไต่เขาก็จะยิ่งเติมเต็มเนื้อหาให้กับ ภาพถ่ายภูเขามากยิ่งขึ้น

6. วางตำแหน่งโพลาไรซ์ให้ถูกทิศถูกทาง ช่างภาพส่วนใหญ่มักจะใช้ฟิลเตอร์ โพลาไรซ์เพื่อขับสีสันของท้องฟ้าให้เข้มข้นขึ้นในการถ่ายภาพวิว แต่การจะได้ภาพเป็นที่น่าสนใจไม่ได้จบแค่การใส่ฟิลเตอร์โพลาไรซ์แล้วถ่ายภาพ วิวเท่านั้น ช่างภาพต้องเรียนรู้มุมสะท้อนของแสงอาทิตย์อันจะส่งผลให้ใช้ประโยชน์จากมุม โพลาไรซ์ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และยังสามารถวางตำแหน่งของภูเขาในภาพได้อย่างถูกต้อง โดยมุมที่ตั้งฉากกับดวงอาทิตย์จะเกิดผลในการใช้ฟิลเตอร์ชนิดนี้มากที่สุด การใช้งานให้ปรับมุมฟิลเตอร์พร้อมกับสังเกตความเปลี่ยนแปลงจากช่องมองภาพโดย เลือกเอาตำแหน่งการปรับฟิลเตอร์ที่เห็นว่าได้ภาพดีที่สุด

7. หมอกและแสงหลัง สิ่งอันเป็นความปรารถณาของผู้รักการถ่ายภาพหุบเขาทั้งหลายคงหนีไม่พ้นทะเล หมอก ที่ช่างภาพ ต้องขนอุปกรณ์เป็นระยะทางไกลขึ้นสู่ไหล่เขาสูงจนได้ระดับ แต่นั่นก็คุ้มค่าเพราะช่างภาพสามารถใช้ความลี้ลับของทะเล หมอกทำให้ภูเขามีความลึกลับน่าค้นหาได้เป็นอย่างดี ยิ่งยามใดที่ปรากฏทะเลหมอกขึ้นยังบริเวณหุบเขาและมีแสงส่องเข้ามาทางหลัง จะส่งผลให้ภาพหุบเขาเกิดเป็นเงาดำทึบตัดกับผืนหมอกที่กำลังสะท้อนแสงแลดูสวย งามจับใจ

8. รวมคนเข้าไปในภาพ การแสดงสัดส่วนและขนาดเป็นสิ่งสำคัญในภาพถ่ายแทบทุกประเภท ในการถ่ายภาพภูเขาบางครั้งอาจใช้ต้นไม้ หรือก้อนหินเป็นส่วนประกอบ แต่ในบางโอกาสช่างภาพก็ไม่สามารถที่จะหาบางสิ่งบางอย่างมาใช้ทดแทนเพื่อบอก ขนาดอันใหญ่โตของภูเขาและทิวทัศน์ที่กว้างไกลได้เลย การรวมคนเข้าไปในภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญในยามที่ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเช่น นี้ แถมยังเพิ่มความน่าสนให้กับภาพรวมทั้งบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางได้อีกด้วย

9. มองหาและเข้าใกล้ เพื่อที่จะช่วยสร้างความรู้สึกชัดลึกให้เกิดขึ้นในภาพวิวทิวทัศน์ ช่างภาพควรมองหาวัตถุที่อยู่ในระยะใกล้วางเคียงคู่ประกอบกับภูเขาเข้าในภาพ อาจเป็นดอกไม้ น้ำตก หรือก้อนหินในบริเวณนั้นก็ได้ เพื่อที่จะเพิ่มจุดสนใจและสร้างความแตกต่างของสัดส่วนให้เกิดขึ้นกับภูเขา ช่วยเน้นให้เห็นระยะทาง และเป็นการเร้าอารมณ์ความรู้สึกให้เกิดขึ้นต่อภาพภูเขาได้ดีอีกลักษณะหนึ่ง เช่นกัน แต่ต้องระมัด ระวังเรื่องระยะชัดลึกของภาพให้ดี หากมีสิ่งที่อยู่ใกล้กล้องมากๆ ต้องใช้รูรับแสงแคบเพื่อให้ได้ภาพที่มีระยะชัดลึกสม่ำเสมอทั่วทั้งภาพ

10. ตื่นแต่เช้าตรู่ แสงในช่วงบ่ายต้องถือเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ส่องแสงดั่งต้องมนต์มายา เพราะเป็นช่วงที่ให้แสงอบอุ่น ซึ่งช่างภาพนำมาใช้ประโยชน์ในการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี แต่ยังมีแสงอีกช่วงหนึ่งที่ทรงคุณค่าไม่แพ้กันนั่นก็คือแสงพระอาทิตย์ในช่วง เช้าตรู่ ด้วยสีฟ้าบริเวณชั้นบรรยากาศอันห่างไกล และแสงสีชมพูบนท้องฟ้า เมื่อสองสีรวมเข้าด้วยกันประกอบกับภูเขาเบื้องล่าง ทำให้ภาพที่ออกมากลายเป็นภาพภูเขาที่งดงาม ให้ความรู้สึกบางเบาและสงบเงียบ ช่างภาพภูเขาจึงควรใช้ช่วงเวลานี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ปล่อยให้สูญเปล่ากับการพักผ่อนหลับนอน


ขอบคุณบทความดีๆจาก http://jphotostyle.com